แจแปนเเอลป์ (Japan Alps) เป็นแนวเทือกเขาในเขตภาคกลางตอนเหนือ บริเวณใจกลางของเกาะฮอนชู (เกาะหลักของญี่ปุ่น) ครอบคลุมพื้นที่ของจังหวัด Gifu, Toyama, Nagano และทางใต้ของ Japan Alps ยังครอบคลุมบางส่วนของจังหวัด Yamanashi และ Shizuoka ด้วย
ทาเตยามะ คุโรเบะ อัลไพน์ รูท (Tateyama Kurobe Alpine Route) เป็นเส้นทางท่องเที่ยว-ชมวิวธรรมชาติยอดนิยมระยะทางยาวประมาณ 90 กิโลเมตรที่ตัดผ่านแนวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นตอนเหนือ (Northern Japan Alps) เส้นทางนี้ไต่ระดับขึ้นไปสู่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 3,000 เมตร มีทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขา ทะเลสาบ และภูเขาหิมะตลอดสองข้างทาง โดยใช้พาหนะการเดินทางหลากหลาย เช่น เคเบิ้ลคาร์ รถบัส รถรางไฟฟ้า กระเช้าไฟฟ้า (โรปเวย์) ฯลฯ
Tateyama Kurobe Alpine Route เชื่อมต่อ เมืองโทยามะในจังหวัดโทยามะ (Toyama) ทางตะวันตก กับ เมืองโอมาชิในจังหวัดนากาโนะ (Nagano) ที่อยู่ทางทิศตะวันออก สร้างเสร็จและเปิดบริการในปี ค.ศ.1971 เส้นทางท่องเที่ยวนี้จะเปิดบริการเฉพาะตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิจนถึงปลายฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น (ประมาณเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน) และปิดในช่วงฤดูหนาว (ตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงประมาณกลางเดือนเมษายน)
จุดเด่นและเอกลักษณ์ของเส้นทางนี้คือการได้สนุกสนานผจญภัยไปกับรูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย วิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ตั้งแต่กำเเพงหิมะสูง 20 เมตรในช่วงเดือนเมษายน ทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาเขียวชอุ่มในฤดูร้อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเหลือในฤดูใบไม้ร่วง ตลอดจนทะเลสาบสีฟ้าคราม ฯลฯ ทำให้ Tateyama Kurobe Alpine Route ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกในทุกปี


– : การเดินทาง : –
เส้นทางอัลไพน์มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดอยู่ที่ Toyama และ Nagano จากโตเกียวสามารถเดินทางโดยใช้บริการรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen หรือ JR Azusa limited express ซึ่งวิ่งผ่านเมือง Nagano และ Toyama
การท่องเที่ยวบนเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route ใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง สามารถเริ่มจากด้านเมือง Toyama หรือจากด้านเมือง Nagano ก็ได้ โดยพาหนะการเดินทางจะเปลี่ยนไปเรื่อยในเเต่ละช่วง เช่น รถไฟ รถราง Trolley Bus, กระเช้า Ropeway, Cable Car และรถบัส Alpine Coach
– : เดย์ทริปในเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route : –
การเดินทางของเราเริ่มต้นที่เมืองโทยาม่าในเวลาเช้าตรู่ช่วงเดือนพฤศจิกายน (ฤดูใบไม้ร่วง) เริ่มจากขึ้นรถไฟท้องถิ่นจากสถานี Toyama ไปยังสถานี Tateyama
ยังมีเวลาเหลือเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเปิดของเคเบิ้ลคาร์รอบแรก เลยออกไปเดินเที่ยวชมวิวยามเช้าบริเวณรอบๆสถานี
ราคาของค่าโดยสารของพาหนะในช่วงต่างๆของเส้นทาง แต่วิธีที่ประหยัดเเละสะดวกกว่านั้น คือการซื้อบัตร Tourist Pass ซึ่งมีหลายแบบ สามารถเลือกให้เหมาะสมกับแผนการเดินทางของเราได้
เหลือบไปเห็นโบร์ชัวร์ข้อมูลท่องเที่ยวสำหรับ(ลูกค้ารายใหญ่)ชาวไทย 😛
ป้ายที่จำหน่ายตั๋วก็ยังมีภาษาไทย
ช่วงที่1: เป็นการโดยสาร รถรางเคเบิ้ลคาร์ จากสถานี Tateyama ขึ้นไปยัง Bijodaira ระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร
ประมาณ 7 นาทีก็ถึง สถานีบิโจไดระ (Bijodaira)
ที่ราบบิโจไดระ (Bijodaira) อยู่สูง 977 เมตร (จากระดับน้ำทะเล) เป็นพื้นที่ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่เช่นต้นสนซีดาร์ (Tateyama Cedars) และต้นบีช (beech trees) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปีเรียงรายกันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินชมความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้และนกป่าต่างๆที่มีอยู่กว่า 60 ชนิดในบริเวณนี้

ช่วงที่ 2: จาก Bijodaira เปลี่ยนพาหนะเป็น Tateyama Highland Bus เพื่อไปยัง Murodo ระยะทาง 23 กิโลเมตร โดยมีจุดเเวะระหว่างทางที่ Midagahara
พอเริ่มไต่ระดับสูงขึ้น บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นหนาวเย็น เริ่มเข้าสู่เขตที่มีหิมะปกคลุม
มิดางะฮาระ (Midagahara) ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,930 เมตร เป็นบริเวณที่ลุ่มมีน้ำขัง (Wetlands) ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีเส้นทางเดินให้เที่ยวชมพฤษชาติที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ป่าไม้บนภูเขา ในเส้นทางเดินนี้มีบึงน้ำเล็กๆกระจายอยู่หลายแห่ง (ช่วงเวลาที่เราไปพื้นที่นี้ได้ปิดเเล้วเนื่องจากเริ่มมีหิมะตกปกคลุมพื้นที่)
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อสู่ Murodo พร้อมกับหิมะที่หนาแน่นขึ้น
ภาพของสถานีมูโดโรที่มีโรงแรมอยู่ในบริเวณเดียวกันในช่วงฤดูร้อน


มูโรโด (Murodo) ตั้งอยู่ที่ความสูง 2,450 เมตร (จุดสงสุดของเส้นทางท่องเที่ยว Japan Alpine) เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในบริเวณนี้ เช่น การปีนเขา เส้นทางเดินเที่ยวชมวิว บึงน้ำที่ปากปล่องภูเขาไฟ กำแพงหิมะ(ในฤดูหนาว) ฯลฯ ในวันที่เราไปถึง แม้ว่าเป็นเพียงช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง แต่บรรยากาศข้างบนนี้ก็เหมือนเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว มีหิมะตกและปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ
นักท่องเที่ยวสามารถออกมาเดินเที่ยว-ชมบรรยากาศของด้านนอกอาคารได้ โดยมีการกั้นเเนวทางเดินไว้ให้
ช่วงที่ 3: จาก Morodo เดินทางต่อด้วย รถบัสลอดอุโมงค์ใต้ภูเขา (Tunnel Trolley Bus) ระยะทาง 3.7 กิโลเมตรไปยัง Daikanbo (ระดับความสูง 2,316 เมตร)
เราแวะทานอาหารกลางวันที่นี่ด้วยเลย
จากจุดชมวิวบนชั้นสองและดาดฟ้าของสถานีไดกันโบ (Daikanbo) สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น และทะเลสาบที่เกิดจากเขื่อนคุโรเบะในหุบเขาเบื้องล่างได้แบบพาโนราม่า
ช่วงที่ 4: จาก Daikanbo ขึ้น กระเช้า Ropeway ข้ามหุบเขาลงไปยัง Kurobedaira (ระดับความสูง 1,828 เมตร) เห็นวิวทะเลสาบสวยงามอยู่เบื้องล่าง
ที่ราบคุโรเบะไดระ (Kurobedaira): เมื่อออกจากสถานีจะได้ชมทัศนภาพอันสวยงามของทิวเขาและทะเลสาบคุโรเบะ
ช่วงที่ 5: หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็น รถรางเคเบิ้ลคาร์ (Cable Cars) ที่วิ่งอยู่ในอุโมงค์ใต้ผิวดิน (ทำให้ยังคงสามารถเดินทางได้ในช่วงที่มีหิมะตอนต้นฤดูหนาว) เพื่อลงเขาไปยังระดับ 1,455 เมตรที่ สถานี Kurobeko
ช่วงที่ 6: เป็นการเดินเท้า(ชมวิว) จากสถานี Kurobeko ไปตาม สันเขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) ระยะทางประมาณ 600 เมตร จุดหมายต่อไปคือสถานีรถบัสที่ตั้งอยู่อีกฝากของเขื่อน
เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam): ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตัวเขื่อนมีความสูง 186 เมตร เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบโค้ง (Arch Dam) ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีปริมาณการเก็บกักน้ำในทะเลสาบเหนือเขื่อน 200 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1 หมื่นล้านกิโลวัตต์ต่อปี เป็นเขื่อนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและมีทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่สวยงาม
ช่วงที่ 7: หลังจากเดินเที่ยวชมเขื่อนคุโรเบะจนพอใจแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ โดยครั้งนี้เป็น รถบัสไฟฟ้าลอดอุโมงค์ใต้ภูเขา (Kanden Tunnel Electric Bus) ที่วิ่งไปถึง โองิซาวะ (Ogizawa) อันเป็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางท่องเที่ยว Tateyama Kurobe Alpine Route
ที่สถานี Ogizawa เราขึ้น รถบัสท้องถิ่น Highland Express เพื่อเดินทางต่อ โดยผ่านเมืองโอมาชิ (Omachi) และไปสิ้นสุดที่เมือง นากาโน (Nagano)
วิวสองข้างทางสวยงามและเต็มไปด้วยสีสันของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงเมืองนากาโน่ จากท่ารถบัสเดินไปสถานีรถไฟนากาโน่ซึ่งอยู่ไม่ไกล เเล้วโดยสารรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen กลับถึงเมือง Toyama ในเวลาพลบค่ำพอดี จบการเดินทาง(กึ่งผจญภัย)ที่สนุกสนานเเละเพลิดเพลินไปอย่างราบรื่น.. \O.O/
แชร์เรื่องนี้: